การคัดลอกงาน (Plagiarism)
เรากำลัง เข้า ข่าย Plagiarism หรือไม่ ?
Plagiarism มีผู้แปลเป็นภาษาไทยไว้หลายคำเช่น
การลักลอกผลงาน การคัดลอกผลงาน การโจรกรรมทางวิชาการ การโจรกรรมทางวรรณกรรม การขโมยผลงานและการลอกเลียนผลงาน
เป็นต้น สำหรับบทความนี้ผู้เขียนขอใช้ คำว่า Plagiarism ตรง ๆ โดยไม่แปล
“Plagiarism หมายถึง การใช้ผลงานหรือแนวคิดของบุคคลอื่นเพื่อทำ
ให้ดูเหมือนเป็นงานของตนเอง”(มานิตย์ จุมปา, ๒๕๕๖
: ๙๘) ซึ่ง
Plagiarism นี้บางครั้งเกิดด้วยความตั้งใจ และหลายครั้งเกิดจากความไม่ตั้งใจแต่ขาดความระมัดระวังในเรื่องของการอ้างอิงให้ถูกต้อง
ทั้งนี้ในบางกรณีอาจถึงขั้นเข้าข่ายเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้สร้างผลงานวรรณกรรมต้นฉบับซึ่งผิดกฎหมายด้วย
หากคัดลอกเกิน ๑,๐๐๐ คำ หรือ ร้อยละ ๑๐ ของผลงานขึ้นอยู่กับจำ
นวนใดน้อยกว่ากัน ดังนั้นถ้าจำ เป็นต้องคัดลอกมากกว่านี้ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน
รูปแบบต่าง ๆ ของ Plagiarism พอจะสรุปได้ดังนี้
(บุษบา
มาตระกูล, ๒๕๕๑ : ๘-๙)
- Copy and Paste Plagiarism (การคัดลอก-แปะ) คือ การนำข้อความจากต้นฉบับมาใช้โดยไม่ใส่เครื่องหมายคำพูดและเขียนอ้างอิง
- Word Switch Plagiarism (การเปลี่ยนคำ) คือ การนำข้อความต้นฉบับมาเปลี่ยนบางคำโดยไม่ใส่เครื่องหมายคำพูดและเขียนอ้างอิง
- Metaphor Plagiarism (การอุปมา) คือ การนำคำอุปมาของต้นฉบับมาใช้ โดยไม่ได้อุปมาเป็นอย่างอื่น โดยไม่อ้างอิง
- Style Plagiarism (สำนวน) นำข้อความต้นฉบับผู้อื่นมาใช้โดยเรียงประโยคใหม่อันแสดงถึงรูปแบบสำนวนเดิม
- Idea Plagiarism (ความคิด) คือ การนำทฤษฎีต่าง ๆ มาวิเคราะห์ วิจารณ์ ถึงความรู้ทั่วไป หากมีผู้อื่นวิเคราะห์ด้วยทฤษฎีนั้นแล้วต้องอ้างอิง หากไม่อ้างอิงจะเป็น Plagiarismดังนั้นอาจเลี่ยงได้โดยเขียนด้วยทฤษฎีอื่น
- การกระทำอื่นๆ ที่ถือเป็น Plagiarism เช่น การส่งผลงานชิ้นเดียวกันไปยังสำนักพิมพ์ ๒ แห่ง หรือลอกผลงานตัวเอง(Self Plagiarism) การส่งผลงานที่ทำร่วมกับผู้อื่นไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้เขียนร่วม การลอกการบ้าน การใช้บทความจากอินเทอร์เน็ตโดยไม่อ้างอิงการนำคำกล่าว สุนทรพจน์ สถิติ ภาพ กราฟ ผู้อื่นไปใช้โดยไม่อ้างอิง
การกระทำที่เข้าข่าย Plagiarism นี้มีมานานแล้วทั้งในต่างประเทศและในประเทศไทย
ทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจคนไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีใครสนใจเอาความกับผู้กระทำผิดเช่นนี้นัก
แม้จะเป็นการกระทำ ที่นับว่าผิดศีลธรรมและจรรยาบรรณก็ตาม จนกระทั่งพบการกระทำในลักษณะPlagiarism
นี้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในสังคม ไม่ว่าจะในวงการวรรณกรรม ธุรกิจ เกมคอมพิวเตอร์
ภาพยนตร์หนังสือพิมพ์ และการศึกษา อีกทั้งในยุคปัจจุบันมีเทคโนโลยีสารสนเทศที่เจริญก้าวหน้าเอื้ออำนวยให้
การคัดลอกต่าง ๆ สามารถกระทำได้โดยง่ายและรวดเร็ว จึงยิ่งทำให้Plagiarism แพร่หลายโดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่นักเรียนนักศึกษา ที่ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือในการค้นคว้าสารสนเทศต่าง
ๆ โดยนำมาใช้ตัดแปะข้อความของคนอื่นในผลงานของตัวเองโดยไม่มีการอ้างอิง หรือที่เรียกว่า
Cyber-Plagiarism
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น