วันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

การคัดลอกงาน (Plagiarism)

การคัดลอกงาน (Plagiarism)


เรากำลัง เข้า ข่าย Plagiarism หรือไม่ ?
Plagiarism มีผู้แปลเป็นภาษาไทยไว้หลายคำเช่น การลักลอกผลงาน การคัดลอกผลงาน การโจรกรรมทางวิชาการ การโจรกรรมทางวรรณกรรม การขโมยผลงานและการลอกเลียนผลงาน เป็นต้น สำหรับบทความนี้ผู้เขียนขอใช้ คำว่า Plagiarism ตรง ๆ โดยไม่แปล

“Plagiarism หมายถึง การใช้ผลงานหรือแนวคิดของบุคคลอื่นเพื่อทำ ให้ดูเหมือนเป็นงานของตนเอง(มานิตย์ จุมปา, ๒๕๕๖ : ๙๘) ซึ่ง Plagiarism นี้บางครั้งเกิดด้วยความตั้งใจ และหลายครั้งเกิดจากความไม่ตั้งใจแต่ขาดความระมัดระวังในเรื่องของการอ้างอิงให้ถูกต้อง ทั้งนี้ในบางกรณีอาจถึงขั้นเข้าข่ายเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้สร้างผลงานวรรณกรรมต้นฉบับซึ่งผิดกฎหมายด้วย หากคัดลอกเกิน ๑,๐๐๐ คำ หรือ ร้อยละ ๑๐ ของผลงานขึ้นอยู่กับจำ นวนใดน้อยกว่ากัน ดังนั้นถ้าจำ เป็นต้องคัดลอกมากกว่านี้ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน

รูปแบบต่าง ๆ ของ Plagiarism พอจะสรุปได้ดังนี้ (บุษบา มาตระกูล, ๒๕๕๑ : -)
  • Copy and Paste Plagiarism (การคัดลอก-แปะ) คือ การนำข้อความจากต้นฉบับมาใช้โดยไม่ใส่เครื่องหมายคำพูดและเขียนอ้างอิง
  •  Word Switch Plagiarism (การเปลี่ยนคำ) คือ การนำข้อความต้นฉบับมาเปลี่ยนบางคำโดยไม่ใส่เครื่องหมายคำพูดและเขียนอ้างอิง
  •  Metaphor Plagiarism (การอุปมา) คือ การนำคำอุปมาของต้นฉบับมาใช้ โดยไม่ได้อุปมาเป็นอย่างอื่น โดยไม่อ้างอิง
  •  Style Plagiarism (สำนวน) นำข้อความต้นฉบับผู้อื่นมาใช้โดยเรียงประโยคใหม่อันแสดงถึงรูปแบบสำนวนเดิม
  •  Idea Plagiarism (ความคิด) คือ การนำทฤษฎีต่าง ๆ มาวิเคราะห์ วิจารณ์ ถึงความรู้ทั่วไป หากมีผู้อื่นวิเคราะห์ด้วยทฤษฎีนั้นแล้วต้องอ้างอิง หากไม่อ้างอิงจะเป็น Plagiarismดังนั้นอาจเลี่ยงได้โดยเขียนด้วยทฤษฎีอื่น
  •  การกระทำอื่นๆ ที่ถือเป็น Plagiarism เช่น การส่งผลงานชิ้นเดียวกันไปยังสำนักพิมพ์ ๒ แห่ง หรือลอกผลงานตัวเอง(Self Plagiarism) การส่งผลงานที่ทำร่วมกับผู้อื่นไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้เขียนร่วม การลอกการบ้าน การใช้บทความจากอินเทอร์เน็ตโดยไม่อ้างอิงการนำคำกล่าว สุนทรพจน์ สถิติ ภาพ กราฟ ผู้อื่นไปใช้โดยไม่อ้างอิง



การกระทำที่เข้าข่าย Plagiarism นี้มีมานานแล้วทั้งในต่างประเทศและในประเทศไทย ทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจคนไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีใครสนใจเอาความกับผู้กระทำผิดเช่นนี้นัก แม้จะเป็นการกระทำ ที่นับว่าผิดศีลธรรมและจรรยาบรรณก็ตาม จนกระทั่งพบการกระทำในลักษณะPlagiarism นี้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในสังคม ไม่ว่าจะในวงการวรรณกรรม ธุรกิจ เกมคอมพิวเตอร์ ภาพยนตร์หนังสือพิมพ์ และการศึกษา อีกทั้งในยุคปัจจุบันมีเทคโนโลยีสารสนเทศที่เจริญก้าวหน้าเอื้ออำนวยให้ การคัดลอกต่าง ๆ สามารถกระทำได้โดยง่ายและรวดเร็ว จึงยิ่งทำให้Plagiarism แพร่หลายโดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่นักเรียนนักศึกษา ที่ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือในการค้นคว้าสารสนเทศต่าง ๆ โดยนำมาใช้ตัดแปะข้อความของคนอื่นในผลงานของตัวเองโดยไม่มีการอ้างอิง หรือที่เรียกว่า Cyber-Plagiarism


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น